เกมบันไดงู
( Snakes and Ladders) เกมกระดานสำหรับเด็กเล่นชนิดหนึ่งที่มีการเล่นมาอย่างช้านานและเกือบทุกชนชาติ
เกมถูกวาดลงบนแผ่นกระดาษ ตีเป็นตารางสี่เหลี่ยมขนาดเล็กคล้ายกระดานหมากรุก
โดยทั่วไปแล้วจะมีขนาด 10×10 ช่อง จึงได้ 100 ช่องพอดี
ในการเล่นจะใช้ผู้เล่นตั้งแต่สองคนขึ้นไป
โดยการผลัดกันทอดเต๋าและใช้ตัวเดินๆตามแต้มที่ได้
โดยเริ่มต้นแข่งขันตั้งแต่ช่องหมายเลข1 ใครไปถึง 100 หรือเส้นชัยก่อนจะเป็นผู้ชนะ
แต่ก็ใช่ว่าเกมจะจบลงง่ายๆโดยไม่มีอุปสรรค เพราะจะมี "บันได" หรือ “งู”
สลับพาดเชื่อมระหว่างช่องต่างๆทั่วทั้งกระดาน
ถ้าใครเดินไปตกตรงช่องที่เป็นบันไดจะได้ไต่ขึ้นไปจนสุดของบันไดนั้นเหมือนเป็นทางลัด
และเริ่มเดินต่อจากจุดนั้น แต่ถ้าตกช่องที่มีหัวงู ก็จะต้องตกกลับลงไปยังหางงู แล้วเริ่มเดินใหม่จากจุดที่ตกลงไป และบางกระดานอาจจะมีช่องที่ผู้เล่นต้องทำตามข้อกำหนดเช่นหยุดเดิน 1 ครั้งหรือได้เดินเพิ่มอีก 1 ครั้ง
--------------------------------------------------
หากชีวิตของสัตว์โลกเสมือนหนึ่งกำลังเล่นอยู่ในเกมบันไดงู
แผ่นกระดานเกมคือภพต่างๆอันเป็นแดนเกิดของสัตว์โลก เกมที่เล่นแต่ละครั้งคือชาติกำเนิดเป็นสัตว์ต่างๆ
สัตว์ทุกตัวต้องเล่นไปตามบทบาทและหน้าที่ของตน
เริ่มนับหนึ่งและออกเดินไปเรื่อยๆบนกระดานเกม
ตกลงตามช่องต่างๆตามแต้มของเต๋าที่ทอดได้ เมื่อในเกมหนึ่งๆ มีการทอดเต๋ากันหลายครั้ง
การทอดเต๋าคือการกระทำที่มีทั้งกรรมดีและกรรมชั่วสลับกันไปหลายกรรมหลายวาระ
แต้มของเต๋าพาไปตกลงช่องธรรมดามีผลเป็นกลางๆ
ไม่มีอะไรกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบ้าง ตกลงตรงช่องที่มีข้อกำหนดดีหรือบันไดพาดก็ได้ไต่ปีนขึ้นไปยังช่องที่เหนือกว่าบ้าง
เปรียบเสมือนชีวิตได้พบทางลัด มีความโชคดี ได้ลาภ ยศ
สรรเสริญและสุข
แต่ถ้าไปตกลงตรงช่องที่มีข้อกำนดที่ไม่ดีหรือหัวงูก็ต้องตกลงไปยังหางงูกลับไปยังที่ๆเคยเดินผ่านมาแล้ว
เปรียบเสมือนชีวิตได้พบกับหลุมพลาง ประสบแต่ความโชคร้าย มีความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ
นินทา และทุกข์ ชีวิตสัตว์โลกก็เป็นเช่นนี้ ตามกฎธรรมดาโลก(โลกธรรม๘) มีได้มีเสื่อม
มีขึ้นมีลงคละเคล้า แต่สุดท้ายแล้ว
สัตว์ทุกตัวได้ไปถึงจุดหมายแล้วแต่ว่าใครจะไปถึงก่อนและหลัง เกมเป็นอันสิ้นสุด
และก็คงจะดีหากเกมชีวิตของสัตว์ทุกตัวตนสิ้นสุดลงในกระดานเดียวไม่ต้องกลับมาเล่นอีกในเกมใหม่
บนกระดานใหม่…แต่มันไม่ได้เป็นเช่น
...
กว่าจะจบในแต่ละเกม ไม่มีใครเลยที่จะจำได้ว่าทอดเต๋าไปแล้วกี่ครั้ง
มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเกมบ้าง ชาติหนึ่งๆทำกรรมใดกันไว้บ้าง
ใครเลยจะจดจำได้หมด เมื่อตายไปจากโลกนี้ ชีวิตคือจิตที่สืบต่อเนื่องยังมีความอยากคือตัณหาที่จะไปสู่เกมกระดานในภพใหม่
ถือชาติกำเนิดใหม่ที่แตกต่างจากเดิม ยิ่งเวียนกำเนิดอีกหลายภพ
กรรมที่ทำไว้ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ผลของกรรมก็ซับซ้อนยิ่งขึ้น
กรรมและภพนี่เองที่เป็นตัวปิดกั้นไม่ให้สัตว์ในโลกผู้มีปัญญาอันน้อยนิดระลึกชาติที่เคยอาศัยอยู่ในกาลก่อนๆได้
ไม่อาจระลึกถึงกรรมที่เคยทำไว้มากมาย ไม่มีญานที่จะรู้ได้ว่ากรรมใดให้ผลก่อนหรือหลัง หรือกรรมใดให้ผล
กรรมใดไม่ให้ผล รู้ไม่ได้ว่าเล่นเกมบันไดไต่ภพมาแล้วกี่ครั้ง
ได้เข้าไปไกล้เส้นชัยบ้างหรือไม่ ใกล้มากที่สุดเมื่อไร
แล้วที่ต้องตกไปห่างไกลจากเส้นชัยจนเกือบที่จะหมดโอกาสได้กลับมาสู่เกมกระดานอีกเท่าไรต่อเท่าไร
เกมบันไดงู
เลิกเล่นเมื่อไรก็ได้เมื่อผู้เล่นไม่ต้องการที่จะเล่นต่อ
หากไม่พอใจผลของเกมพาลล้มทิ้งกลางกระดานก็ยังได้
และอาจกลับมาเริ่มเกมใหม่เมื่อไรก็ได้ที่ใจพร้อมที่จะเล่น
แต่เกมชีวิตของสัตว์โลกเลิกเล่นไม่ได้ เมื่อไม่อยากเล่นเกมนั้น
ล้มเลิกทิ้งกลางกระดานแล้วเริ่มต้นใหม่ทันทีหรือทีหลังก็ไม่ได้
เกมนี้ไม่เคยรอให้ใครพร้อม การเริ่มต้นใหม่ของสัตว์ที่ไม่รู้แจ้งจึงเป็นการเล่นต่อไป
อีกหลายเกม(ชาติ)และหลายกระดาน(ภพ) วนเป็นวัฏฏะอยู่อย่างนั้น เกมที่เหมือนจะสิ้นสุดจึงไม่อาจสิ้นสุดลงได้
แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะออกจากกระดานเกมนี้ไม่ได้
แต่ต้องไม่ใช่ด้วยการโล๊ะทิ้งกลางกระดานหรือเล่นต่อจนจบเกม
แต่ใจนั้นยังอยากยังแสวงหาเพื่อเริ่มเกมใหม่ หากสัตว์โลกจะรู้
รู้อย่างที่ใครบางคนรู้
...
หาก
พระพุทธเจ้า คือผู้หนึ่งที่ได้เล่นเกมกระดานเหล่านี้
พระพุทธองค์ก็ได้สละชีวิตตนมาแล้วเพื่อช่วยเหลือปกป้องเหล่าสัตว์ให้รอดพ้นจากความทุกข์นานัปประการที่ได้พบบนเกมกระดานต่างๆมานับครั้งไม่ถ้วน
และยังอุทิศชีวิตทั้งหมดเพื่อสืบค้นให้รู้จักสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเกมกระดานเหล่านั้น
จนเมื่อถึงกระดานสุดท้าย พระพุทธองค์ได้พบว่า กระดานเกมเหล่านั้นเต็มไปด้วยภัย
เต็มไปด้วยกองทุกข์ และอวิชชา(ความไม่รู้)นี่เองที่เป็นเครื่องกางกั้นปกปิดความจริง(สัจธรรม)ทั้งหมด
ทำให้สัตว์โลกต้องเวียนวนมาสู่การเล่นเกม เกมแล้วเกมเล่า ยิ่งไม่รู้ยิ่งติดกับ
ยิ่งติดกับยิ่งหลงระเริงเล่น
ยิ่งหลงระเริงเล่นยิ่งมืดบอดมองไม่เห็นความจริงแท้ของเกมกระดาน
พระพุทธองค์จึงทรงนำความจริงเหล่านั้นออกจากที่มืด
มาเปิดเผยในที่สว่าง ให้สัตว์โลกได้เห็นอย่างที่พระพุทธองค์เห็น
แม้ปัญญาของสัตว์โลกนั้นมีความแตกต่างกัน อาจจะมองเห็นได้ไม่เหมือนกัน
แต่อย่างน้อยๆซึ่งเกือบทั้งหมดนั้น
พระพุทธองค์ได้ทรงชี้ให้เห็นทางไปสู่กระดานภพทุกกระดานและบอกวิธีที่จะไม่ต้องไปสู่กระดานภพเหล่านั้น
ที่สำคัญบอกวิธีปิดทางไปสู่บางกระดานภพ เพราะบางกระดานเป็นภพอันต่ำ
เป็นภพที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน หาความเจริญไม่ได้ และอาจโชคร้ายที่สุด หากหมดโอกาสที่จะได้ไต่บันไดกลับขึ้นมาในกระดานภพที่สูงอีก
และอย่างประเสริฐที่สุด สิ่งที่พระพุทธองค์บอก คือวิธีการออกไปจากเกม
ออกจากการเป็นผู้เล่น
ไม่ต้องเวียนกลับเข้ามาสู่เกมกระดานไหนๆอีกอย่างแน่นอน(นิจจัง)
เกมกระดานนี้เราจึงต้องเล่นต่อ
เล่นจนกว่าจะพบวิธีเลิกเล่นที่ไม่ต้องหวนกลับมาสู่กระดานเกมนี้อีก
เล่นจนมีความรู้(วิชชา)ในความไม่รู้(อวิชชา)
เล่นจนเห็นแจ้งในความจริงหรือสัจธรรมอันสูงสุดของเกมกระดาน
แล้วอะไรคือความอันจริงสูงสุด
“ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราและพวกเธอเร่ร่อนท่องเที่ยวไป
ตลอดกาลนานอย่างนี้เพราะไม่ได้ตรัสรู้ ไม่ได้แทงตลอดอริยสัจ ๔ อริยสัจ ๔ อะไรบ้าง ดูกรภิษุทั้งหลาย
เราและพวกเธอ เร่ร่อนท่องเที่ยวไปตลอดกาลนานอย่างนี้เพราะไม่ได้ตรัสรู้
ไม่ได้แทงตลอดทุกขอริยสัจ ๑
ทุกขสมุทยอริยสัจ ๑ ทุกขนิโรธอริยสัจ ๑ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ๑ ”
อริยสัจ ๔
นี่เองคือความจริงอันสูงสุดของเกมกระดาน
กองทุกข์ใหญ่ที่ต้องพานพบในการเล่นเกมกระดาน
มีผู้ค้นพบและบอกกล่าวให้เรารู้แล้ว เหตุเกิดของกองทุกข์ใหญ่เหล่านั้น
มีผู้ค้นพบและบอกกล่าวให้เรารู้แล้ว
ความดับสนิทของกองทุกข์ทำให้ไม่ต้องกลับเข้าสู่การเล่นเกมกระดานนี้อีกอย่างแน่นอน
มีผู้ค้นพบและบอกกล่าวให้เรารู้แล้ว และหนทางเดียวที่จะออกจากเกมกระดานนี้ได้
มีผู้ค้นพบและและชี้ทางให้เรารู้แล้ว
...
ด้วยโชคยังดีหรือเพราะผลแห่งกรรมดี
เราจึงได้กลับมาเล่นใหม่ บนกระดานภพที่ดีที่สุดชื่อว่ามนุษย์โลก
ในเกมที่ดีที่สุดที่ได้ชาติของมนุษย์
ในโอกาสที่ดีที่สุดที่จะได้รู้จักเกมกระดานทั้งหมด
จากคำบอกกล่าวของผู้ที่ผ่านการเล่นเกมเหล่านั้นมาแล้วทุกเกมทุกกระดาน
ผ่านตัวหนังสือที่ได้รับการบันทึกไว้ ผ่านการบอกเล่าของผู้ที่ศึกษามาแล้วนำมาบอกต่อ
แต่จะมีสักกี่คนที่ได้พบบันทึกนั้น
ได้พบผู้ที่จะบอกเล่าให้ฟังและเมื่อพบจะมีสักกี่คนที่สนใจศึกษาและศึกษาจนเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง
...
คราวที่ชีวิตเผชิญหน้ากับมรสุมทุกข์ที่โหมซัดอย่างหนักหน่วง
อย่าไปโทษฟ้าดิน อย่าโทษว่าเบื้องบนนั้นไม่ช่วยเหลือ
อย่าติเตียนว่าเมื่อนับถือศาสนาแล้วใยศาสดาไม่ช่วยเหลือ อย่าโทษดวง
โทษโชคชะตาว่ามีผู้กำหนดให้และถูกกำหนดไว้อย่างไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีก
เป็นเราเองที่หลงเข้าไปในเกมกระดาน ทอดเต๋าเล่นอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
เกมแล้วเกมเล่าอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเลิก ติดใจในกำเนิดและแดนที่ได้กำเนิด
พัวพันหลงใหลในกามคุณ๕ อันมี
รูป รส กลิ่น เสียง
และสัมผัสที่น่าปรารถนา น่าใคร่ ชวนให้กำหนัด
มัวเมาในความเป็นผู้มีชัยในลาภ ยศ สรรเสริญและสุขเหนือสัตว์อื่นๆ
ยึดมั่นถือมั่นในตัวกู(อหังการ) ว่าของกู(มมังการ)ที่ถูกจองจำไว้ในขันธ์ ๕ คือรูป(ร่างกาย) เวทนา(ความรู้สึก) สัญญา(ความทรงจำ)
สังขาร(เครืองปรุ่งแต่ง) และวิญญาณ(ความรู้อารมณ์) ที่เรียกว่า "มนุษย์"
เมื่อมีความอยาก(ตัณหา)ที่ยังไม่ดับสนิท
ต้นเหตุธรรม ๓ อย่างคือ ราคะ(กำหนัดยินดี) โทสะ(ความโกรธ) และโมหะ(ความหลง-หลงไปจากอริยศัจ๔)จึงยังก่อให้เกิดกรรม กรรมจากการทอดเต๋า
ความติดใจและความอยากจึงพาไปสู่การเล่นเกมกระดานอื่นๆต่อไป
...
กรรม ชั่ว มี วิบาก ชั่ว ตกลงไปตามตัวงู กรรม ดี มี วิบาก ดี ได้ไต่ขึ้นไปตามบันได
อย่างไม่แปรเป็นอื่น
เกมชีวิตนี้เราเลือกเล่นเอง และเลือกที่จะไม่เล่นต่อก็ได้
แต่ก็ไม่ใช่จากผู้อื่น แต่ต้องด้วยตัวเอง
…
เกมบันไดงู ไต่ขึ้นลงไปตามภพอันสูงและต่ำ ไม่จบสิ้น
//-------------------------------------------------//

